นางสว่าง ฐานทองดี เป็นเกษตรกรวัย 70 ปี ชาวพังขว้าง อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร ได้พลิกวิกฤตภัยแล้งที่เกิดขึ้นให้เป็นโอกาสในการเร่งปลูกขายพริกหยวกในพื้นที่ของตนเองเป็นจำนวนกว้างถึง 5 ไร่ด้วยสภาวะผักที่ขาดตลาดทำให้คุณยายหันมาปลูกพริกหยวกเพิ่มเติม แล้วทำการส่งขายยังตลาดในจังหวัดได้ราคางามถึง 15 บาทต่อกิโลกรัมในหนึ่งวันนั้นคุณยายสามารถทำรายได้จากการขายพริกหยวกได้ถึง 600-700 บาทเลยทีเดียว สร้างรายได้ให้เพิ่มมากขึ้นเป็นกอบเป็นกำ
นางสว่างได้เปิดเผยข้อมูลว่าในปีนี้สภาวะภัยแล้งนั้นรุนแรงกว่าทุกปีทำให้พืชผักนั้นมีราคาที่แพงขึ้น ผักขาดแคลนมีเข้าสู่ตลาดน้อยกว่าความต้องการของผู้บริโภคตนจึงได้มีความคิดที่จะเริ่มปลูกพริกหยวกเพิ่มเติมเพราะด้วยต้นทุนที่ต่ำ ใช้น้ำน้อย รวมถึงพื้นที่ใช้การเพาะปลูกก็มีอยู่แล้ว คุณยายได้เริ่มปลูกพริกหยวกมาตั้งแต่เดือนตุลาคมของปีที่แล้วจนปัจจุบันสามารถเก็บเกี่ยวผลได้แล้ว โดยผลมีสีเขียวสวยงาม และผลยังดกอีกด้วย มีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อถึงที่ คุณยายนอกจากจะปลูกพริกหยวกแล้วพื้นที่ในแปลงก็ยังปลูกผักคะน้าควบคู่กันไปด้วย เพื่อเพิ่มรายได้ เพราะถ้าหากผักชนิดใดราคาตกลงก็ยังมีผักอีกชนิดที่พอจะขายได้ราคากว่าอยู่ อย่างไรก็ตามในปีนี้ถือว่ายังไม่แล้งหนักมากยังคงใช้น้ำบาดาลในการรดผักได้ ซึ่งสาเหตุที่พ่อค้าแม่ค้ามารับผักกับคุณยายเป็นเพราะผลผลิตนั้นมีต้นทุนที่ต่ำกว่าหากจะไปรับจากทางภาคเหนือ เพราะต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายในการขนส่ง อีกทั้งสด สะอาดและปลอดสารพิษอีกด้วย
Sign up here with your email
ConversionConversion EmoticonEmoticon